การลงทุนที่คุ้มค่า คือ การลงในด้านการศึกษา ซึ่งถือว่าเป็น ” รากฐานที่สำคัญของชีวิต ” หากเรามองเพียงแค่ระยะสั้นๆ อาจจะไม่เห็นความแตกต่างอะไร เพราะต้องใช้ระยะเวลาในวัยเรียนนานถึงเกือบ 20 ปี หรือคิดเป็นหนึ่งในสามของชีวิต... หรือถ้ามองในระยะใกล้ก็คืออีก 10 ปีข้างหน้า เมื่อเริ่มเรียนในระดับมัธยม... ส่วนการลงทุนไปแล้วจะออกดอก ออกผล ได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับการวางแผน การลงมือทำ และองค์ประกอบอื่นๆ หลายอย่างประกอบกัน

เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะการเลือกเรียนต่อในมหาวิทยาลัย น้องๆ จะต้องใช้ความรู้ ทักษะผลงาน กิจกรรม หรือประสบการณ์ต่างๆ ที่สะสมมาทั้งหมดในช่วงวัยเรียน เริ่มตั้งแต่อนุบาลจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินของชีวิต ขอเรียกเส้นทางนี้ว่า “ ทางสามแพร่ง ” ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะคาดการณ์ได้ว่า เมื่อจบจากมหาวิทยาลัยแล้ว พวกเขาจะทำงานหรือประกอบอาชีพอะไร

ไม่ว่าจะเป็นคนรอบข้าง ญาติพี่น้อง หรือคนที่เรารู้จัก  หากเราลองสังเกต กลุ่มที่สามารถสอบเข้าเรียนมหาลัยชั้นนำและคณะยอดนิยมได้สำเร็จ... มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จสูงในการประกอบอาชีพการงาน... ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ทุกกรณี ก็คงไม่มีใครมาการันตีความสำเร็จได้ 100% เพราะเส้นทางเดินชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน ความสำเร็จก็ย่อมแตกต่างกัน

ผมเชื่อว่า มรดกที่ล้ำค่าที่สุดที่พ่อแม่ควรจะมอบให้แก่ลูก คือ ความรู้ หรือลงทุนด้านการศึกษานั่นเอง... ซึ่งไม่เคยสูญเปล่าอย่างแน่นอน พ่อแม่ทุกคนล้วนหวังให้ลูกมีความมั่นคงในชีวิต และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน... ดั่งต้นไม้ที่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่อย่างตั้งใจ ความสุขของลูก คือ ความสุขของพ่อแม่... มอบสิ่งดีๆ ให้พวกเขาเพื่อรอเวลาแห่งความหวังต่อไป...